โคลีเซี่ยม ถือฤกษ์ดีเปิดละครเรื่องใหม่
“เผาขน” คว้า พระเอก “เข้ม-อ๊อฟ-ไพศาล”
ประชันบทบาทบู๊จัดหนักกับนางเอกน้องใหม่ “การ์ตูน-แก้ม-แป้ง”
แค่พูดถึงชื่อ บริษัท โคลีเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ก็การันตีจัดหนัก จัดเต็มเรื่องบู๊อยู่แล้ว ล่าสุด ผู้จัดหญิงคนเก่ง “พรพิมล มั่นฤทัย” พร้อมผู้กำกับคู่บุญ “ทองก้อน ศรีทับทิม” ได้ฤกษ์ทำพิธีบวงสรวงละครแอ็คชั่นเรื่อง “เผาขน” อดีตผลงานภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ในปี 2519 จากฝีมือการกำกับการแสดงของ "คมน์ อรรฆเดช" ซึ่งในปี 2563 นี้ ทางโคลิเซี่ยมก็ได้นำมาปัดฝุ่นลงจอแก้วในรูปแบบของละครให้ได้ชมกันอีกครั้ง พร้อมเปิดตัวนักแสดงแบบครบทีม นำทีมโดย พระเอก “เข้ม-หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล” ประชันกับนางเอกใหม่แกะกล่อง“การ์ตูน-ณัฐฌา บุญปอง” อีกหนึ่งพระเอกมาดเข้ม “อ๊อฟ-ชนะพล สัตยา” รับบทป๋าดันนางเอกน้องใหม่ “แก้ม-ญาณิศา ธีราธร และพระเอก “ไพศาล ขุนหนู” ประกบคู่กับนางเอกน้องใหม่ “แป้ง-พรภัสร์ชนก มิตรชัย” นอกจากนี้ยังได้นักแสดงมากฝีมืออีกคับคั่งมาร่วมแสดง อาทิ แอมป์-พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์ / สุรวุฑ ไหมกัน / เอกพัน บรรลือฤทธิ์ / ปราปต์ปฏล สุวรรณบาง / ชมพูนุช พึ่งพล / จิรายุ อึ้งวานิช / น้ำทิพย์ เสี่ยมทอง / กมลรัตน์ ทานนท์ เป็นต้น
“เผาขน” ละครแนวแอ็คชั่น
บทประพันธ์จากปลายปากกาของ ส.อาสนจินดา บทโทรทัศน์ ภูมิแผ่นดิน กำกับการแสดงโดย ทองก้อน ศรีทับทิม เรื่องราวของ ชิงรัก
หักเหลี่ยม เฉือนคม เมื่อตำรวจวิญญาณโจร
ไล่ล่า โจรหัวใจตำรวจในระยะเผาขน ติดตามและลุ้นกับเหตุการณ์ที่นำไปสู่ความยุติธรรมได้ในละคร
“เผาขน”
ทางช่อง 7 HD เร็วๆ นี้
“เผาขน”
ชิงรัก หักเหลี่ยม เฉือนคม เมื่อตำรวจวิญญาณโจร ไล่ล่า โจรหัวใจตำรวจ
ในระยะ.......เผาขน
ละครโทรทัศน์ เรื่อง “เผาขน” (จากบทประพันธ์เดิมเรื่อง “คมซ้อนคม”)
แนว :
Action Drama บทประพันธ์ : ส.อาสนจินดา บทโทรทัศน์ : ภูมิแผ่นดิน
อำพล (หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล) ตัวกลางนายหน้าค้ายา
และเอเยนต์ค้ามนุษย์ ตัวเล็กๆกำลังติดต่อและต่อรองซื้อยาเสพติดกับ ลูกน้องของ สันติ
(เอกพัน บันลือฤทธิ์) ซึ่งเป็นลูกน้องระดับล่าง แต่อำพลต้องการเจรจากับ สันติ ไม่มีใครสามารถทำแบบนั้นได้เพราะ
สันติคือมาเฟียระดับพรีเมียม จะเข้าถึงตัวได้ยากมาก เพราะมีศัตรูมากมายหลายกลุ่ม
และกลุ่มที่ใหญ่และทรงอิทธิพลไม่แพ้สันติก็คือ กลุ่มของ โกเมศ (สุรวุฑ ไหมกัน)มาเฟียที่ไม่เคยมีใครแตะต้องได้
จึงได้ฉายาว่า The Untouchable
การเจรจาต่อรองระหว่างอำพลกับลูกน้องของสันติยังไปไม่ถึงไหน ผู้กองโรมรัน (ชนะพล สัตยา)
ก็พาตำรวจบุกเข้าทะลาย และจับกุม
อำพลใช้จังหวะฝีมือต่อสู้หนีมาแล้วมาพบกับโรมรัน อำพล พลาดการซื้อขายครั้งนี้
แถมเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากผู้กองโรมรันที่เพิ่งย้ายมาประจำหน่วยปราบปรามยาเสพติดได้ไม่ถึง
2 สัปดาห์ แต่ก็ลุยสร้างผลงานซะแล้ว อำพลจึงไปพบกับธนา
เพื่อนที่สนิทสนมกับลูกน้องในแกงค์ของโกเมศเพื่อหาซื้อยาเสพติด แต่ช่วงนี้โกเมศเก็บตัวเพราะกำลังมีคดี
กลุ่มนักข่าวกำลังรอทำข่าวอยู่ที่หน้าศาลอาญา
วันนี้มีข่าวใหญ่ที่ทุกคนพลาดไม่ได้
นั่นคือการพิจารณาคดีอุกฉกรรจ์หลายคดีของมาเฟีย โกเมศ ไม่นานนักโกเมศก็เดินออกมาพร้อม
อลัน (ปราปต์ปฏล สุวรรณบาง)กับ นีน่า (กมลรัตน์ ทานนท์)บอดี้การ์ดและ จีรเดช (อิทธิกร สาธุธรรม) ทนายใหญ่มือระดับพระกาฬ
พร้อมกับ อลิส (ณัฐฌา บุญปอง) บอดี้การ์ดสาวสวยมือขวาของจีรเดช ผลการพิจารณาคดีปรากฏว่าหลักฐานไม่เพียงพอ
ศาลยกฟ้องโกเมศรอดและยังมีชีวิตอย่างมีความสุข
ผู้กองโรมรัน จ่าทิว (ไพศาล
ขุนหนู) หมวดหมาน (ธนายง
ว่องตระกูล)
และทีมปราบปรามยาเสพติดไม่มีใครรู้ข่าวเลยว่าจะมีการแลกเปลี่ยนซื้อขายยาเสพติด
แต่ผู้กองศิวะรู้เรื่องนี้ในทางลับ
เขาไม่บอกใครว่ารู้ได้อย่างไร และแหล่งข่าวคือใคร มาจากไหน ผู้กองศิวะบอกว่าเขามาสายข่าวคนใหม่ที่ยังเปิดเผยไม่ได้เพราะมันเกี่ยวกับความปลอดภัยของสายข่าวคนนั้น
มีการประชุมกันเกี่ยวกับการหาหลักฐานเพื่อจับกุมโกเมศ และ สันติ ผู้กองโรมรันบอกว่าควรจะหาทางกำจัดสันติก่อนเพราะ
น่าจะง่ายกว่าโกเมศ เพราะคิดว่าในช่วงนี้โกเมศต้องระวังตัวเพราะเพิ่งหลุดจากคดีต่างๆ
รองศิวะเห็นด้วย งานนี้ทางหน่วยเหนือส่ง หมวดมุทิตา
( ญาณิศา ธีราธรธรรม )จากพิสูจน์หลักฐานมาช่วยงาน
เพราะรองศิวะต้องการตรวจหลักฐานที่ได้อย่างทันท่วงทีไม่ว่าจะเป็นเขม่าดินปืน
รอยนิ้วมือ ฯลฯ
สันติกบดานอยู่ที่ไหนสักแห่งโดยไม่มีใครรู้
สุรสีห์ (พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์)
มือขวาของเขาก็ยังดำเนินธุรกิจด้านค้ายาต่อไป
โดยใช้ฉากหน้าเป็นนักธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตอนนี้เขากำลังสร้างรีสอร์ทหรู
แถวเขื่อนเขาแหลมเป็นเวลาประจวบเหมาะที่เขาได้มาใกล้ชิดกับ แนน เจ้าของธุรกิจและอัญมณี
ที่มีบ่อพลอยอยู่แถวนั้น ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของ นายแพทย์ผดุงศักดิ์
(ดร.ปิยะวัชร์ บุญยืนยงสกุล) นายแพทย์ที่มีชื่อเสียงด้านสมอง และการผ่าตัด แม้ว่าจะมีคนมาติดพัน แนนมาก
ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ เธอกลับเลือกที่จะให้สุรสีห์คบหา กับเธอ โดยที่หมอผดุงศักดิ์ก็เห็นดีด้วย
วันหนึ่งที่โรงพยาบาลจิตเวท อนันต์ผู้ป่วยทางสมองพ่อของอลิส
หายออกไปจากโรงพยาบาล อลิสออกตามหาและไปแจ้งความคนหาย อลิสได้เจอกับผู้กองโรมรัน ผู้กองโรมรันจำได้ว่า อลิส เป็นหนึ่งในทีมทนายของจีรเดช
ที่ว่าความให้โกเมศ จึงเข้าไปตีสนิทและช่วยเหลือ ทำให้อลิสไว้ใจ อลิสให้ดูภาพถ่ายของ
อนันต์ ภาพของอนัต์ดูโทรม ผมยาวไม่เป็นทรง
มีหนวดเครา แทบมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง
แต่มันคลับคล้ายคลับคลาว่ามีใบหน้าเหมือนใครคนหนึ่งที่โรมรันรู้จัก เขานึกไม่ออก จากเหตุการณ์นี้ทำให้อลิสสนิทกับโรมรันและไว้ใจเขา
สำหรับโรมรันในเบื้องต้นคิดเพียงว่าต้องการสนิทสนมกับอลิสเพื่อหาข่าวโกเมศ
อำพลพยายามหาทางเข้าถึงตัวสุรสีห์
โดยการไปหาเอเยนต์ยาเสพติดรายย่อยๆแล้วปล่อยข่าวข่าวว่าเขาต้องการซื้อยาเสพติดล๊อดใหญ่
ข่าวนี้ไปเข้าหู สุรสีห์และสันติ สันติรู้สึกสนใจจึงนัดมาเจรจา อำพลได้เข้าไปพบสุรสีห์ แต่ไม่พบสันติ
เพราะสันตินั่งอยู่ในรถ
แต่เหตุการณ์ผิดคาด มีตำรวจบุกเข้ามา ผู้กองโรมรันกับทีมนั่นเองที่เป็นคนนำกำลังมาจับกุม การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือด
อำพลแปลกใจว่าทำไมตำรวจถึงรู้เรื่องนี้ทุกครั้งอย่างไรก็ดีเขากับธนาหนีออกมาได้ โรมรัน
บุกถึงรถสันติ แล้วยิงสันติบาดเจ็บสาหัสซึ่งโรมรันคิดว่าตายสนิทแล้ว สุรสีห์รีบพาสันติไปที่โรงพยาบาลหมอผดุงศักดิ์พยายามรักษาอย่างเต็มที่
แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตของสันติไว้ได้ สันติเสียชีวิตในเวลาต่อมา หมวดมุและ ทีมเข้ามาพิสูจน์ และพบว่าเป็นสันติตัวจริงเพราะมีดีเอ็นเอที่รถและที่อื่นๆตรงกัน
ข่าวการถูกวิสามัญของสันติ กระจายไปอย่างรวดเร็ว คนที่ดีที่สุดเห็นจะได้แก่โกเมศ
เพราะตอนนี้เขาไม่มีคู่แข่งอีกแล้ว แต่ก็มีข่าวร้าย หลังจากสันติเสียชีวิตไป
หมอผดุงศักดิ์ ก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุอย่างมีเงื่อนงำ แนน
รู้สึกสงสัยจึงของให้ตำรวจมาช่วยดูคดีให้ละเอียด ผู้กองโรมรัน สั่งให้
จ่าทิวกับหมวดมุไปดูเรื่องนี้ และจากการสืบสวน
และรวมทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มีเหตุให้เชื่อได้ว่า
นายแพทย์ผดุงศักดิ์ตายอย่างผิดธรรมชาติ อาจเป็นการฆาตกรรมแนน ขอให้สุรสีห์ช่วยจัดการสืบหาด้วย
สุรสีห์รับปากซึ่งตอนนี้ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่
จ่าทิวผู้มีความจริงใจก็เข้ามาสนิทสนมกับแนนเพื่อแจ้งความคืบหน้าทางคดีให้แนนทราบเป็นระยะ
ทำให้แนนรู้สึกว่าจ่าทิวเป็นคนน่ารักและน่าคบคนหนึ่ง ยิ่งนานวัน
จ่าทิวก็เริ่มเข้ามาอยู่ในหัวใจของแนนขึ้นทุกวัน
จนสุรสีห์เริ่มมองเห็นความชัดเจนของเรื่องนี้ เขาเก็บมันไว้ในใจ ด้วยความแค้น
อนันต์ ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างถนนแห่งหนึ่ง
เขากำลังจะถูกรถชน แต่ อำพลบังเอิญผ่านมาแล้วช่วยเอาไว้ได้ อำพลไม่รู้จักอนันต์เห็นชุดโรงพยาบาลที่อนันต์สวมใส่
เขาจึงพาไปส่งที่โรงพยาบาล และจากจุดเริ่มต้นนี้เองเขาเริ่มสนิทกับอลิส
เพาะช่วยชีวิตและสามารถตามพ่อของเธอกลับมา
หลังจากที่อนันต์กลับมาที่โรงพยาบาลแพทย์ที่ดูแลอาการของเขาบอกว่าอนันต์
มีอาการดีขึ้น
หรือเทียบได้ว่าเท่ากับคนปกติ แต่เขายังนิ่งและพูดได้ช้า อีกทั้งจำใครไม่ได้
อลิสนำอนันต์มาพักที่บ้านกลับเธอและสัญญาว่าจะดูแลอนันต์อย่างดีที่สุดให้สมกับที่เธอทอดทิ้งเขามานาน ซึ่งตอนนี้
อำพลกลายเป็นเงาตามตัวอลิสทันที
โรมรันรับรู้เขาเคยบอกอลิสว่าอำพลไม่ใช่คนดี และพัวพันกับแกงค์ยาเสพติด อลิสบอกว่าถ้าผิดก็จับไป โรมรันบอกว่าหลักฐานไม่พอ อลิสยิ้มพอใจแล้วบอกว่านั่นแสดงว่าเขาไม่ใช่คนร้าย
แต่เรื่องที่โรมรันขอร้องให้หาข้อมูลเกี่ยวกับโกเมศนั้นอลิสบอกว่าเธอทำได้บางส่วนที่ไม่ให้กระทบจรรยาบรรณของวิชาชีพเธอในด้านความลับของลูกค้าโรมรันเข้าใจแต่ฝากไว้กับอลิสว่าระหว่างจรรยาบรรณกับการบ่อนทำลายชาติ
อลิสก็คิดเหมือนกัน
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามใดใน “เผาขน” ทางช่อง 7 เอช ดี เร็วๆ
นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น